ผู้เขียน หัวข้อ: ดูแลสุขภาพ: รู้หรือไม่? เราควร “ถ่ายหนัก” วันละกี่ครั้ง ถึงเรียกว่าสุขภาพดี  (อ่าน 1019 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 187
    • ดูรายละเอียด
ปัญหาเรื่องของ การขับถ่าย เป็นปัญหาเล็กๆ ที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติได้ถ้าใครได้ลองสัมผัสถึงความทรมานของการไม่ได้ถ่ายเป็นเวลานาน ระหว่างถ่ายมีอาการเจ็บ แสบ บาดจนเป็นเลือด หรือถ่ายไม่ออก ที่หลายคนเรียกกันว่า ท้องผูก

สารพัดอาหาร หรือยาต่างๆ นานา ถูกนำมาใช้นำมาทานกันเพื่อให้เราได้ถ่ายคล่องสบายตัวเป็นปกติ แต่คุณเคยคิดหรือเปล่าว่า ใน 1 วัน เราควรถ่ายกี่ครั้ง ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่มีสุขภาพดี ระบบขับถ่ายปกติ

ใน 1 วัน เราควรถ่ายหนักกี่ครั้ง?


จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่พูดยากอยู่เหมือนกันว่าคนเราควรจะต้องถ่ายกี่ครั้งใน 1 วัน เพราะน่าจะมีความแตกต่างกันไปตามขนาดรูปร่าง อาหารการกิน และอายุของแต่ละคน

หากใครที่คอยสังเกตตัวเองได้ว่า ปกติแล้วจะถ่ายแค่วันละครั้ง และไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร อุจจาระไม่ได้แห้ง แข็ง เหนียว หรือมีสีที่ผิดปกติ (สีเหลืองเข้มไปจนถึงน้ำตาล) ก็สันนิษฐานได้ว่า ถ่ายหนักวันละครั้งก็คงจะเพียงพอแล้วสำหรับคุณ ในทางกลับกันหากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนทานน้อย สังเกตว่าตัวเองถ่ายแค่ 2 วันครั้ง หรือคุณเป็นคนทานอาหารในแต่ละวันมาก ถ่ายวันละ 2 ครั้ง และไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรกับการถ่ายในแต่ละครั้ง ก็แสดงว่าคุณก็เหมาะกับจำนวนถ่ายเท่านั้น


ปัจจัยในการถ่ายของแต่ละคน ที่ทำให้จำนวนครั้งในการถ่ายในแต่ละวันไม่เท่ากัน

    ปริมาณน้ำที่ดื่ม ยิ่งดื่มน้ำมาก ก็จะยิ่งถ่ายบ่อย หรือง่ายขึ้น

    อายุที่มากขึ้น อาจทำให้การขับถ่ายทำได้ยากขึ้น

    กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน หากคุณลุกเหินเดินวิ่งอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงออกกำลังกายเป็นประจำ (คาร์ดิโอ) จะช่วยให้ขับถ่ายได้ง่าย หรือบ่อยครั้งกว่าคนที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไร อยู่นิ่งๆ หรือไม่ออกกำลังกาย

    อาหารที่ทาน คนที่ทานผักน้อย กากใยอาหารน้อย ก็จะมีโอกาสขับถ่ายได้น้อยครั้ง หรือขับถ่ายยากกว่าคนที่ทานผักผลไม้เป็นประจำ และคนที่ทานอาหารจำพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรตในปริมาณมากเป็นประจำ ก็อาจขับถ่ายได้ยาก หรือน้อยครั้งกว่าคนที่ทานแป้งน้อยกว่า

    ประวัติการรักษาโรค อาจมีผู้ป่วยบางโรคที่ได้รับผลกระทบทำให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพลง เช่น โรคโครห์น ที่เป็นความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดการระคายเคือง และทางเดินอาหารบวม โรคลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดเป็นแผล หรือไวรัสลงกระเพาะ ท้องเดินจากไวรัส เป็นต้น

    ปริมาณของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และ เอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบขับถ่ายได้เช่นกัน เพราะพบว่าผู้หญิงบางคนจะถ่ายบ่อยกว่าปกติเมื่อเข้าใกล้ช่วงที่กำลังจะมีประจำเดือน เป็นต้น

    วิถีชีวิตของแต่ละคน บางคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในชั่วโมงเร่งรีบ อบู่บนถนนที่รถติด ต้องอยู่ที่ๆ จำกัดเป็นเวลานาน หรือไม่ชอบการขับถ่ายนอกบ้าน อาจมีพฤติกรรม “กลั้น” ไว้ก่อน ส่งผลให้จำนวนครั้งที่ถ่ายในแต่ละวันเปลี่ยนแปลง และมีปัญหาท้องผูกในภายหลังได้เช่นกัน


จำนวนการถ่ายหนัก สำคัญไฉน?

สิ่งสำคัญที่สุด คือการสังเกตตัวเอง จดจำพฤติกรรมในการถ่ายของตัวเองเอาไว้บ้างว่า วันนี้เราถ่ายหรือยัง เมื่อวานเราได้ถ่ายหรือเปล่า ปกติเราต้องถ่ายวันละครั้ง วันละ 2 ครั้ง หรือ 2 วันครั้ง แล้วช่วงนี้การขับถ่ายของเราเป็นไปอย่างปกติหรือไม่ ถ้าพบว่าจำนวนครั้งในการถ่ายของเราไม่เหมือนเดิม ก็ควรทานอาหารที่มีปริมาณของน้ำ และกากใยอาหาร เช่น ผักผลไม้ และธัญพืชเพิ่มมากขึ้น เพื่อควบคุมการทำงานของระบบขับถ่ายของตัวเองให้เป็นปกติอยู่เสมอ เป็นการช่วยหลีกเลี่ยงโรคที่ทรมานอย่าง โรคริดสีดวงทวาร โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ เลยไปจนถึงมะเร็งทวารหนักได้

จากการสำรวจของมหาวิทยาลัย Scandinavian Journal of Gastroenterology พบว่า คนส่วนใหญ่จะขับถ่ายราว 3 ครั้งต่อวัน จนถึง 3 ครั้งต่อสัปดาห์ (หรือราวๆ 2 วันครั้ง) หากถ่ายมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจมองว่าผิดปกติได้

ดูแลสุขภาพ: รู้หรือไม่? เราควร “ถ่ายหนัก” วันละกี่ครั้ง ถึงเรียกว่าสุขภาพดี  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/